Page 3 - สารศูนย์วิทย์เดือนพฤศจิกายน2563

3

กลับมาพบกับทุกท่านอีกแล้วครับ เมื่อลมหนาวพัดโชยมา ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะกับการดูดาว
และฟังนิทานเป็นที่สุด ในครั้งก่อน เรานำาเรื่องอันแสนเศร้าของนายพรานหนุ่มโอไรออน ที่มา
ของกลุ่มดาวนายพรานตามตำานานของเทพปกรณัมกรีกมาฝาก วันนี้เราจะนำาตำานานของ
“ดาวคานสามตา หรือ กลุ่มดาวเข็มขัดนายพราน” ตามตำานานของชาวไทเขิน (อาศัยอยู่เมือง
เชียงตุง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา) มาฝากกันครับ ซึ่งดาวคานสามตา เป็นดาวที่อยู่บริเวณเข็มขัด
ของกลุ่มดาวนายพราน ประกอบด้วยดาวมินทากะ ดาวอัลนิแลม และดาวอัลนิแทก เรื่องราวของ
ตำานานจะเป็นอย่างไรนั้น ไปเริ่มอ่านกันเลย...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนายพรานและภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ใน

นิทาน.... หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภรรยาของนายพรานตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งผ่านไป 3 ปีแล้ว
ก็ไม่มีท่าทีว่าจะคลอดสักที ทำาให้คนในหมู่บ้านเกิดความหวาดกลัว
จากดวงดาว ว่าเด็กคนนี้จะนำาพาความชั่วร้ายเข้ามา จึงขับไล่นายพรานและภรรยา

ออกจากหมู่บ้าน ทำาให้ทั้งคู่ต้องร่อนเร่อยู่ในป่านานกว่าสามเดือน
จนภรรยาของนายพรานคลอดลูกสาวออกมา จากนั้นไม่นานภรรยา

ของนายพรานก็สิ้นใจไป
นายพรานได้ตั้งชื่อลูกสาวของตนว่า “อูเป่ม” (ดาวบีเทลจุส) ซึ่งแปลว่า แก้วตาดวงใจของพ่อ อูเป่มโตขึ้นเป็นหญิงสาว
ที่หน้าตาสวยงาม จนชายทุกคนต่างหมายปองอยากได้เป็นภรรยา พร้อมยอมทำาทุกอย่างเพื่อให้นางอูเป่มสนใจ ในตอนนั้น
มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า “ขุนสามลอ” (ดาวไรเจล) อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำา ขุนสามลอเป็นพ่อค้าที่เก่งและขยัน
มักออกเดินทางไปค้าขายที่ต่าง ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ขุนสามลอเดินทางข้ามแม่น้ำามายังหมู่บ้านที่นางอูเป่มอาศัยอยู่ ทันทีที่เห็นนางอูเป่ม
ขุนสามลอก็ตกหลุมรักนาง พอนางอูเป่มหยุดซื้อของ จึงรีบปรี่เข้าไปกระซิบข้างหูนางว่า “มาเป็นภรรยาของข้าเถิด ข้าอาจไม่รวย

แต่ข้ายังหนุ่ม ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเพราะข้ารักเจ้า” ขุนสามลอได้หยอกล้อกับนางอูเป่ม จนนางอูเป่มตกหลุมรัก และตัดสินใจว่า
จะแต่งงานกัน ขณะที่แม่ของขุนสามลออยากให้แต่งงานกับลูกสาวตระกูลใหญ่ในหมู่บ้านจึงไม่ชอบนางอูเป่ม แต่ก็ยอมเดินทางไปสู่ขอ
นางอูเป่มให้

หลังจากทั้งสองแต่งงานกันแล้ว นางอูเป่มก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านของขุนสามลอ ตอนที่ขุนสามลอไม่อยู่บ้าน ครอบครัวของ
ขุนสามลอปฏิบัติกับนางไม่ดีนัก แม่ของขุนสามลอมักใช้นางอูเป่มทำางานบ้านสารพัดและด่าทอด้วยคำาหยาบ บางครั้งถึงขนาดตบตี
นางอูเป่มด้วย แม้ขณะนั้นนางอูเป่มจะตั้งท้องอยู่ก็ตาม จนนางอูเป่มทนไม่ไหว ตัดสินใจหนีกลับบ้าน ระหว่างทาง นางอูเป่มเกิดแท้งลูก
แม้ร่างกายจะอ่อนแอ นางอูเป่มก็ยังทนฝืนเดินทานกลับถึงบ้านและสิ้นใจในอ้อมอกพ่อของตน ฝ่ายพ่อจึงโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อขุนสามลอเดินทางกลับถึงบ้านแล้วไม่เจอนางอูเป่ม จึงปรี่ไปยังบ้านของนางอูเป่ม แต่ปรากฏว่าผู้คนในหมู่บ้านต่างแค้นเคือง

และกีดกันไม่ให้เข้าไป ส่วนพ่อของนางอูเป่มก็ไม่ยอมให้ขุนสามลอได้พบศพนางอูเป่ม ขุนสามลอเห็นเช่นนั้นจึงกำาเหรียญขึ้นโปรย
ไปยังทิศตรงข้ามกับประตูบ้าน ขณะที่ผู้คนมัวแต่เก็บเหรียญอยู่ ขุนสามลอจึงแอบเข้าไปในบ้านและเห็นร่างของนางอูเป่ม ขุนสามลอ
เศร้าเสียใจอย่างมากและตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองอยู่ข้างศพของนางอูเป่ม “ภรรยาที่รักของข้า รอข้าก่อนนะ ไม่มีอะไรแยกเราสอง

ออกจากกันได้ แม้แต่ความตาย” ขุนสามลอได้เอ่ยคำาพูดสุดท้ายต่อหน้าศพนางอูเป่ม พ่อของนางอูเป่มเห็นเช่นนั้นก็ได้สลดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
จึงตัดสินใจฝังร่างทั้งคู่ด้วยกัน เพื่อให้ทั้งสองได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฝ่ายแม่ของขุนสามลอออกเดินทางจากหมู่บ้านตามลูกชายมา
นางรู้สึกโกรธและเคียดแค้น คิดว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้ร่างนางอูเป่มได้ฝังข้างลูกชายตน จึงหยิบไม้ไผ่สามลำาที่ใช้เป็นคานหามโลงศพ
ของทั้งคู่มาคั่นระหว่างหลุมทั้งสองเพื่อไมให้ได้อยู่เคียงคู่กัน ด้วยเหตุนี้ จึงเรียกดาวสามดวงที่เรียงเป็นเส้นในกลุ่มดาวนายพราน
(ดาวเข็มขัด) ว่า “ดาวคานสามตา” คั่นกลางระหว่างดาวอูเป่ม (ดาวบีเทลจุส) ออกจากดาวขุนสามลอ (ดาวไรเจล) ให้อยู่คนละฟาก

นั่นเอง
ที่มา: https://www.facebook.com/NARITpage/

ที่ปรึกษา: สิบเอก นครไทย ยวนแห่ว รองปลัด อบจ.กำาแพงเพชร รักษาราชการแทน ผู้อำานวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
บรรณาธิการ: นายชัยเดช แสงทองฟ้า นักประชาสัมพันธ์ชำานาญการ
กองบรรณาธิการ: นางสาวสิริยาภรณ์ สถาพร ผู้ช่วยเจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์, นายธนาคาร เพ็ญฉาย ผู้ช่วยบรรณารักษ์
นางสาวธารทิพย์ คงทอง ผู้ช่วยนักวิชาการศึกษา, นายกฤติพงษ์ พรหมณี ผู้ช่วยนักวิชาการศึกษา
นางอภิรญา ศรีงาม ผู้ช่วยนักจัดการงานทั่วไป
จัดทำาโดย: งานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายแผนงานและโครงการ กองการศึกษาฯ